หน้าหลัก
ทำเนียบผู้ประกอบการ
ข้อมูลงานวิจัย
งานวิจัยจากส่วนกลาง
งานวิจัยส่วนภูมิภาค
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต
งานวิจัยจากส่วนท้องถิ่น กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ (Biochemicals)
Home
Bio-chemicals
งานวิจัยจากส่วนท้องถิ่น
Biochemicals Research Services ?
ผลงานวิจัยส่วนท้องถิ่น กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ (Biochemicals)
5 อันดับผลงานล่าสุด
ที่ถูกอัพเดทในฐานข้อมูล
ฤทธิ์ทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันใบระกำ
: สัลวา ตอปี วิภาวรรณ วงศ์สุดาลักษณ์ เสาวคนธ์ อินทร์ด้วง ผจงสุข สุธารัตน์ และ สิริมาภรณ์ วัชรกุล
Views: 19
: 02 กันยายน 2568 08:03:05
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันใบระกำ โดยการสกัดด้วยวิธีกลั่นด้วยไอน้ำ เมื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมีด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโตรกราฟีร่วมกับแมสสโตรเมตรี (Gas Chromatography – Mass Spectrometry: GC-MS) พบว่าน้ำมันใบระกำมีกรดปาล์มิติก (Palmitic acid) เป็นสารสำคัญที่เป็นองค์ประกอบหลักโดยพบที่ร้อยละ 12.76 ของปริมาณทั้งหมดและพบองค์ประกอบย่อยทางเคมีอื่น ๆ ในกลุ่มของกรดไขมันและสเตอรอลพืช เมื่อทดสอบฤทธิ์การต้านเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคทั่วไปและสายพันธุ์ดื้อยากลุ่มที่สร้างเอนไซม์ Extended spectrum beta-lactamase (ESBL) ด้วยวิธี Disc diffusion assay พบว่าน้ำมันใบระกำสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคได้ในทุกสายพันธุ์ทดสอบ รวมทั้งแบคทีเรียก่อโรคดื้อยาสายพันธุ์ที่ผลิตเอนไซม์ ESBL โดยให้วงใสการยับยั้งต่อเชื้อ Escherichia coli A1 (ESBL) ได้ดีที่สุดที่วงใสการยับยั้ง 10.83±0.56 มิลลิเมตร ในการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าน้ำมันใบระกำเป็นสารจากพืชท้องถิ่นที่อุดมไปด้วยสารอาหารและฤทธิ์ทางชีวภาพที่สามารถประยุกต์ใช้ในงานทางด้านอาหารและยา....
อ่านต่อ
องค์ประกอบทางเคมี สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของเปลือกผลกาแฟ
: ภัทรภร ภควีระชาติ ชนิดา ป้อมเสน นิซุฟยาน นิมะมิง และ ศศธร สิงขรอาจ
Views: 21
: 29 สิงหาคม 2568 08:39:42
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมี ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ความสามารถในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และองค์ประกอบสารหอมระเหยในเปลือกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าและอาราบิก้า จากการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี พบว่า เปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์โรบัสต้ามีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากกว่าพันธุ์อาราบิก้า ขณะที่ปริมาณโปรตีน ไขมัน เส้นใยอาหาร และเถ้าของเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์อาราบิก้ามากกว่าเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ยิ่งไปกว่านั้น เปลือกผลเชอร์รี่กาแฟอาราบิก้ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและการออกฤทธ ....
อ่านต่อ
การใช้สารสกัดสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อควบคุมเชื้อรา Aspergillus flavus ที่ก่ออะฟลาทอกซินในถั่วลิสง
: วิมลศิริ สีหะวงษ์ สุวิจักขณ์ อรุณลักษณ์ และ สายัณห์ สืบผาง
Views: 37
: 11 กรกฎาคม 2568 08:35:27
การศึกษานี้มุ่งเน้นการใช้สมุนไพรพื้นบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ กระเทียม (Allium sativum) และหอมแดง (Allium ascalonicum) เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Aspergillus flavus ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดการปนเปื้อนของสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสง โดยเตรียมสารสกัดสมุนไพรในระดับความเข้มข้น 5% และ 10% ผสมในอาหารเลี้ยงเชื้อ PDA และออกแบบการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) มีจำนวน 3 ซ้ำต่อชุดทดลอง ทำการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของโคโลนีเชื้อราในวันที่ 3, 5 และ 7 หลังการเลี้ยงเชื ....
อ่านต่อ
การใช้ประโยชน์จากเถ้าและโพแทสเซียมที่สกัดได้จากเถ้าทะลายเปล่าปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแหล่งโพแทสเซียมแก่พืช
: รติมาวดี ฤทธิ์ทอง จักรกฤษณ์ พูนภักดี ขวัญตา ขาวมี และ จำเป็น อ่อนทอง
Views: 49
: 26 กันยายน 2568 17:34:49
ปัจจุบันมีการใช้ทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันซึ่งมีโพแทสเซียมสูงเป็นชีวมวลในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าในภาคใต้ ส่งผลให้เถ้าซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเผาไหม้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการกำจัดทิ้งหรือนำไปใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีการสกัดโพแทสเซียมในเถ้าใช้เป็นแหล่งให้โพแทสเซียมแก่พืช งานวิจัยจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้เถ้าและโพแทสเซียมที่สกัดได้จากเถ้าทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันเป็นแหล่งให้โพแทสเซียม ต่อการเจริญเติบโตและการดูดใช้ธาตุอาหารของพืช วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ 4 ทรีต ....
อ่านต่อ
กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของกระชายขาวที่หมักด้วยแบคทีเรียกรดแลคติก
: วันวิสาข์ บุญกล้า อนุศักดิ์ เกิดสิน และปริยาภรณ์ อิศรานุวัฒน์
Views: 70
: 25 มีนาคม 2568 08:44:18
านวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของกระชายขาวที่หมักด้วยเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติก(lactic acid bacteria:LAB)โดยมีปัจจัยที่ศึกษา 2 ปัจจัย ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกที่มีคุณสมบัติเป็นโพรไบโอติกจํานวน 10 สายพันธุ์ ได้แก่ แบคทีเรีย Lactobacillus pentosusJM085 L.pentosusJM0812 L.pentosusUM055 L.pentosusUM054L.pentosusYM122 L.pentosusVM096 L.pentosusDM068 L.pentosusVM095 Enterococcus faecalisYM126 และ L.lactisA7 ระยะเวลาในการหมัก ได้แก่ 0 24 48 และ 72 ชั่วโมง ผลการทดลองพบว่า ....
อ่านต่อ
Displaying all of Biochemicals Research
Loading...