หน้าหลัก
ทำเนียบผู้ประกอบการ
ข้อมูลงานวิจัย
งานวิจัยจากส่วนกลาง
งานวิจัยส่วนภูมิภาค
เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต
งานวิจัยจากส่วนท้องถิ่น กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ (Biochemicals)
Home
Bio-chemicals
งานวิจัยจากส่วนท้องถิ่น
Biochemicals Research Services ?
ผลงานวิจัยส่วนท้องถิ่น กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ (Biochemicals)
5 อันดับผลงานล่าสุด
ที่ถูกอัพเดทในฐานข้อมูล
องค์ประกอบทางเคมี สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของเปลือกผลกาแฟ
: ภัทรภร ภควีระชาติ ชนิดา ป้อมเสน นิซุฟยาน นิมะมิง และ ศศธร สิงขรอาจ
Views: 3
: 29 สิงหาคม 2568 08:39:42
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมี ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ความสามารถในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และองค์ประกอบสารหอมระเหยในเปลือกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าและอาราบิก้า จากการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี พบว่า เปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์โรบัสต้ามีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากกว่าพันธุ์อาราบิก้า ขณะที่ปริมาณโปรตีน ไขมัน เส้นใยอาหาร และเถ้าของเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์อาราบิก้ามากกว่าเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ยิ่งไปกว่านั้น เปลือกผลเชอร์รี่กาแฟอาราบิก้ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH (radical scavenging assay) สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณและผลการออกฤทธิ์ในเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟโรบัสต้า ขณะที่ค่าการออกฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน ABTS (cation radical scavenging assay) และ FRAP (Ferric reducing antioxidant power) ของเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์โรบัสต้ามีค่าการออกฤทธิ์มากกว่าเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์อาราบิก้า และปริมาณแอนโทไซยานินในเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟทั้งสองพันธุ์มีค่าไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ปริมาณคาเฟอีนและกรดคลอโรจีนิกในเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟพันธุ์อาราบิก้ายังสูงกว่าโรบัสต้าเล็กน้อย จากการวิเคราะห์สารหอมระเหยด้วยเครื่อง GC-MS พบว่าสารหอมระเหยทั้งหมดมี 32 ตัว สารหอมระเหยที่มีมากที่สุดคือ phenol 54.78% และคาเฟอีน (caffeine) 12.90% อย่างไรก็ตาม พบว่าสารหอมระเหยที่น่าสนใจ ได้แก่ borneol และ turmerone ซึ่งให้กลิ่นรสพิเศษในเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟโรบัสต้าเท่านั้น ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าเปลือกผลเชอร์รี่กาแฟทั้งโรบัสต้าและอาราบิก้ามีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก และมีสารสำคัญที่สามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากของเหลือทิ้งทางการเกษตร เพิ่มมูลค่าให้กับเป....
อ่านต่อ
การใช้สารสกัดสมุนไพรพื้นบ้านเพื่อควบคุมเชื้อรา Aspergillus flavus ที่ก่ออะฟลาทอกซินในถั่วลิสง
: วิมลศิริ สีหะวงษ์ สุวิจักขณ์ อรุณลักษณ์ และ สายัณห์ สืบผาง
Views: 19
: 11 กรกฎาคม 2568 08:35:27
การศึกษานี้มุ่งเน้นการใช้สมุนไพรพื้นบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ กระเทียม (Allium sativum) และหอมแดง (Allium ascalonicum) เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Aspergillus flavus ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดการปนเปื้อนของสารอะฟลาทอกซินในถั่วลิสง โดยเตรียมสารสกัดสมุนไพรในระดับความเข้มข้น 5% และ 10% ผสมในอาหารเลี้ยงเชื้อ PDA และออกแบบการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) มีจำนวน 3 ซ้ำต่อชุดทดลอง ทำการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของโคโลนีเชื้อราในวันที่ 3, 5 และ 7 หลังการเลี้ยงเชื ....
อ่านต่อ
การใช้ประโยชน์จากเถ้าและโพแทสเซียมที่สกัดได้จากเถ้าทะลายเปล่าปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแหล่งโพแทสเซียมแก่พืช
: รติมาวดี ฤทธิ์ทอง จักรกฤษณ์ พูนภักดี ขวัญตา ขาวมี และ จำเป็น อ่อนทอง
Views: 30
: 10 มิถุนายน 2568 10:03:40
ปัจจุบันมีการใช้ทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันซึ่งมีโพแทสเซียมสูงเป็นชีวมวลในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าในภาคใต้ ส่งผลให้เถ้าซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเผาไหม้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการกำจัดทิ้งหรือนำไปใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีการสกัดโพแทสเซียมในเถ้าใช้เป็นแหล่งให้โพแทสเซียมแก่พืช งานวิจัยจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้เถ้าและโพแทสเซียมที่สกัดได้จากเถ้าทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันเป็นแหล่งให้โพแทสเซียม ต่อการเจริญเติบโตและการดูดใช้ธาตุอาหารของพืช วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ 4 ทรีต ....
อ่านต่อ
กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของกระชายขาวที่หมักด้วยแบคทีเรียกรดแลคติก
: วันวิสาข์ บุญกล้า อนุศักดิ์ เกิดสิน และปริยาภรณ์ อิศรานุวัฒน์
Views: 55
: 25 มีนาคม 2568 08:44:18
านวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของกระชายขาวที่หมักด้วยเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติก(lactic acid bacteria:LAB)โดยมีปัจจัยที่ศึกษา 2 ปัจจัย ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกที่มีคุณสมบัติเป็นโพรไบโอติกจํานวน 10 สายพันธุ์ ได้แก่ แบคทีเรีย Lactobacillus pentosusJM085 L.pentosusJM0812 L.pentosusUM055 L.pentosusUM054L.pentosusYM122 L.pentosusVM096 L.pentosusDM068 L.pentosusVM095 Enterococcus faecalisYM126 และ L.lactisA7 ระยะเวลาในการหมัก ได้แก่ 0 24 48 และ 72 ชั่วโมง ผลการทดลองพบว่า ....
อ่านต่อ
การเตรียมโปรตีนไฮโดรไลเสตจากสาหร่ายสไปรูลิน่าและคุณสมบัติเชิงหน้าที่
: สุพรรณี เบเชกู่ และ วนิดา ปานอุทัย
Views: 71
: 11 มีนาคม 2568 11:30:35
โปรตีนจากสาหร่ายสไปรูลิน่าถือเป็นโปรตีนทางเลือกอุดมไปด้วยเพปไทด์ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของมนุษย์ เช่น การต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ ลดความดันโลหิตหรือต้านโรคอ้วน เป็นต้น ดังนั้นโปรตีนไฮโดรไลเสตจากสาหร่ายสไปรูลิน่าจึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งนอกจากคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคแล้วยังมีคุณสมบัติเชิงหน้าที่ในอาหารที่เหมาะสมสำหรับการแปรรูปในแง่ของผู้ผลิต การรายงานในบทความก่อนหน้ามักรายงานถึงโปรตีนจากสาหร ....
อ่านต่อ
Displaying all of Biochemicals Research
Loading...