ข่าวสารเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมชีวภาพ

ตลาดความงามสมุนไพรไทยรุ่งในจีน คาดปี’68 ทะลุ 1 แสนล้านหยวน พณ.แนะดึงอีคอมเมิร์ซช่วย

ตลาดความงามในจีนกำลังเติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและบริการเวชกรรมความงามแบบเบา ซึ่งเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ไทย, โดยเฉพาะจากสมุนไพรไทย ขยายตลาดไปยังจีนได้ โดยการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและ KOLs จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภค ในขณะที่การศึกษากฎระเบียบการนำเข้าจะเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยถึงการสนับสนุนการสำรวจโอกาสการค้าของทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในต่างประเทศตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยล่าสุดได้รับรายงานจากนายสกรรจ์ แสนโสภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เกี่ยวกับโอกาสการส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามจากไทยเข้าสู่ตลาดจีน ตลาดความงามในจีนสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ การดูแลความงามทั่วไป และการดูแลความงามด้วยวิธีเวชกรรม โดยการดูแลความงามทั่วไปจะเน้นการใช้เครื่องสำอางและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น การดูแลผิวและการนวด ในขณะที่การดูแลความงามด้วยเวชกรรมจะเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีที่เข้มข้นขึ้น เช่น การศัลยกรรมและการสักคิ้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดเวชกรรมความงามแบบเบา (Light Aesthetic Medicine) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมในยุโรปตั้งแต่ปี 2014 และขยายเข้ามาในจีนตั้งแต่ปี 2015 ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการนี้จะใช้เทคนิคทางการแพทย์ที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีดสารเติมเต็ม การฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด การใช้เลเซอร์ หรือการร้อยไหม ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัยมากกว่าการศัลยกรรมแบบดั้งเดิม ข้อมูลล่าสุดในปี 2566 แสดงให้เห็นว่า ขนาดตลาดอุปกรณ์เวชกรรมความงามในจีนมีมูลค่า 77,480 ล้านหยวน และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 100,000 ล้านหยวนในปี 2568 น.ส.สุนันทา ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของตลาดความงามในจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและบริการเวชกรรมความงามแบบเบา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตไทยที่ต้องการขยายตลาดมายังจีน โดยการเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคจีนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเน้นที่คุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสมุนไพรไทยถือเป็นจุดเด่นที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือในคุณภาพและความปลอดภัย การใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Tmall, JD.com และ Douyin (TikTok ของจีน) เป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงการร่วมมือกับ Influencers และ Key Opinion Leaders (KOLs) เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างความน่าสนใจในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ผลิตไทยยังควรศึกษากฎระเบียบและข้อกำหนดการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามในจีนอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านการนำเข้า อีกทั้ง งาน China Beauty Expo ซึ่งจัดขึ้นปีละสองครั้งที่นครเซี่ยงไฮ้และหางโจว จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการสร้างเครือข่ายและหาพันธมิตรทางการค้าจากตลาดจีน
matichon