ห่วงโซ่คุณค่าของพืชที่สำคัญ

ห่วงโซ่คุณค่าของพืชที่สำคัญ


การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของพืชเศรษฐกิจนำร่องสำคัญของไทย


ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) : กาแฟ


>
กาแฟ (Coffee) เป็นไม้พุ่มยืนต้น ขนาดปานกลางสูง ประมาณ 3-4 เมตร ใบสีเขียวแตกออกจากข้อเป็นคู่ๆ ดอกออกตามข้อของกิ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ กาแฟถูกจัดให้อยู่รวมกับพืชมีดอกของวงศ์ Rubiaceae กาแฟเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อาหารที่สำคัญที่สุดทั่วโลกและเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายเป็นจำนวนมากอยู่ในอันดับที่สองรองจากปิโตรเลียม กาแฟได้มีการปลูกอยู่ประมาณ 80 ประเทศทั่วโลก แหล่งกำเนิดเป็นพืชพื้นเมืองของอาบีซีเนีย (Abyssinia) และอาราเบีย (Arabia) ถูกค้นพบในศตวรรษที่ 6 ราวปี ค.ศ. 575 ในประเทศอาระเบีย (Arabia) และในขณะเดียวกันบางท่านก็กล่าวว่ากาแฟเป็นพืชพื้นเมืองที่พบในเมืองคัพฟา (Kaffa) ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศเอธิโอเปีย (Ethiopia) กาแฟจึงกำเนิดชื่อเรียกตามที่ผู้คนพื้นเมืองใช้เรียก แหล่งกำเนิดเดิมของกาแฟมาจากประเทศอาบีซีเนีย หรือแถบประเทศอาราเบียน หรือประเทศอาหรับ ตะวันออกกลาง สำหรับสายพันธุ์หลักของกาแฟที่ปลูกกันทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ กาแฟอาราบิก้า (Coffee arabica) และ กาแฟโรบัสต้า (Coffee canephora)
แนวทางการใช้ประโยชน์จากกาแฟและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องนั้น สามารถจัดได้เป็นหลายประเภท แต่เน้นเป็นหลักอยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยาและสมุนไพร เฟอร์นิเจอร์ที่เตรียมจากกากกาแฟ และพลังงานชีวภาพและเทคโนโลยีปิโตรเคมี ซึ่งในปัจจุบันนั้นจะเห็นได้ว่ากาแฟมีการประยุกต์ใช้งานอย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ดังนั้น มาตรการจากภาครัฐที่มีนโยบายที่เกี่ยวกับกับกาแฟนั้น จึงเป็นมาตรการที่สนับสนุนเพื่อให้เกิดการประยุกต์และส่งเสริมการใช้งานในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจแบบครบวงจร
• อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กาแฟ มีสารคาแฟอีนเป็นองค์ประกอบหลัก และถือว่ามีฤทธิ์ในการชูกำลังได้เป็นอย่างดี มีกลิ่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสมที่จะนำมาพัฒนาเป็นเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบเครื่องดื่มร้อนหรือเครื่องดื่มเย็น ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกาแฟสดเป็นอย่างมาก • ยาและสมุนไพร กลิ่นของกาแฟนั้นเมื่อสูดดม จะทำให้เกิดความผ่อนคลาย จึงทำให้มีผู้ที่สนใจนำกลิ่นของกาแฟนั้นมาทำการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์สปาร์ เพื่อที่จะให้เกิดความผ่อนคลา • สารคาเฟอีนในกาแฟนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาแก้ปวด ยาแก้ไข้ ยาแก้หวัด หรือ ยาลดน้ำมูก เพื่อช่วยส่งเสริมให้ยาออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น • วัสดุทดแทนและสิ่งปลูกสร้าง เตรียมได้จากการเลือกใช้กากกาแฟมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต • เทคโนโลยีพลังงานและปิโตรเคมี ถ่านจากกากกาแฟนี้สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับหม้อไอน้ำอุตสาหกรรม ให้ความร้อนได้ หรือการอบแห้งธัญพืช