หน้าหลัก
บริการข้อมูล
นำเข้าส่ง - ส่งออก
อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ
อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ
อุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์
ห้องปฏิบัติการ
กฎ ระเบียบ มาตรการและนโยบาย
กฎ ระเบียบ
นโยบาย มาตรการ
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
ข่าวสารเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมชีวภาพ
บทวิเคราะห์
Value Chain
อ้อย
มันสำปะหลัง
ปาล์มน้ำมัน
ข้าว
ข้าวโพด
กัญชาและกัญชง
สับปะรด
กาแฟ
โกโก้
Supply Chain
การศึกษาห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ
พอลิแลคติคแอซิด (PLA)
TPS
พอลิไฮดรอกซีอัลคาโนเอท (Polyhydroxyalkanoates หรือ PHAs)
พอลิบิวทิลีนอะดิเพทเทเรฟทาเลท (Polybutylene Adipate Terephthalate หรือ เรียกโดยย่อว่า PBAT)
การศึกษาห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ
กรดอะมิโน
กรดอินทรีย์
เอนไซม์ (Enzyme)
การศึกษาห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชภัณฑ์
วัคซีน
Monoclonal Antibody
Recombinant Hormones
ยาปฏิชีวนะ (antibiotic)
บทวิเคราะห์เชิงลึก
บทวิเคราะห์เชิงลึกเรื่อง การศึกษายุทธศาสตร์
บทวิเคราะห์เชิงลึก “แนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย เตรียมพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพของอาเซียน”
บทวิเคราะห์เชิงลึก การศึกษาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีความต้องการสูงในตลาดเอเชียและการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่สอดรับกับความต้องการของตลาด
บทวิเคราะห์เชิงลึก การศึกษาข้อมูลการประเมินวัฏจักรชีวิตและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อวางแนวทางการปรับปรุงการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพให้บรรลุตามเป้าหมาย ‘Net Zero’
บทวิเคราะห์เชิงลึกการเจาะตลาดอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพสู่การรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลของประเทศมุสลิมในอาเซียน
Green Tax Expense Approval Report
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
ข่าวสารเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมชีวภาพ
Home
Bio Innovation Linkage
หนุนแพทย์ใช้ยาสมุนไพร ลดนำเข้ายาต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มการใช้ยาสมุนไพรไม่ต่ำกว่า
เนื้อเรื่อง :
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งส่งเสริมให้โรงพยาบาลนำยาสมุนไพรไทยมาใช้แทนยาที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับ 10 กลุ่มอาการ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มงบประมาณเป็น 3,000 ล้านบาทภายในปี 2569 นอกจากนี้ยังเตรียมงบประมาณ 60 ล้านบาทเพื่อจ่ายเงินเพิ่มเติมให้กับโรงพยาบาลที่ใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันใน 5 รายการ ซึ่งจะได้รับรางวัลสูงสุดถึง 200,000 บาท สำหรับแนวทางการเบิกจ่ายบริการแพทย์แผนไทย ยาสมุนไพร และการแพทย์ทางเลือกภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
เนื้อหา :
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้ยาสมุนไพรสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมี นายแพทย์ภูวเดช สุระโคตร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศเข้าร่วม นายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันมูลค่าการใช้ยาในระบบสาธารณสุขของรัฐอยู่ที่ประมาณ 70,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยาแผนตะวันตก 69,000 ล้านบาท และยาสมุนไพรเพียง 1,500 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ ยาสมุนไพรที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีมูลค่าเพียง 400 ล้านบาทเท่านั้น แม้ว่าจะมีสมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายให้มูลค่าการใช้ยาสมุนไพรในระบบ สปสช. เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2568 และ 3,000 ล้านบาทในปี 2569 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ป่วย ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และส่งเสริมภูมิปัญญาไทย รมว.สาธารณสุขยังเรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์เชื่อมั่นและสั่งใช้ยาสมุนไพรในการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะสมุนไพร 10 รายการที่ใช้รักษา 10 กลุ่มโรคที่พบบ่อย ได้แก่ ยาไพล – บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ ยาฟ้าทะลายโจร – รักษาไข้หวัดและโควิด-19 ยาขมิ้นชัน – แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาเพชรสังฆาต – ช่วยเรื่องท้องผูกและริดสีดวงทวาร ยาขิง – บรรเทาอาการวิงเวียน ยามะระขี้นก – แก้เบื่ออาหาร ยากล้วย – บรรเทาอาการท้องเสีย ยาหอมเทพจิต – ช่วยให้นอนหลับ ยาพริก – แก้อาการชาจากอัมพฤกษ์ อัมพาต ยาว่านหางจระเข้ – ใช้ทาผิวหนังและแผล นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ยังยกตัวอย่างสมุนไพร 5 รายการที่สามารถใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้ทันที ได้แก่: ครีมไพล – ใช้แทนยาบาล์ม ยาประสะมะแว้ง – ใช้แทนยาแก้ไอ ขมิ้นชันและธาตุอบเชย – ใช้แทนยาขับลม เพชรสังฆาต – ใช้แทนยาเดฟลอน มะขามแขก – ใช้แทนยาไบซาโคดิล เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในโรงพยาบาล รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณสนับสนุนกว่า 60 ล้านบาท รวมถึงการตั้งรางวัลงบประมาณพิเศษให้แก่โรงพยาบาลที่สามารถลดการใช้ยาแผนปัจจุบันใน 5 กลุ่มยาได้ โดยโรงพยาบาลที่ทำได้เร็วจะได้รับรางวัล 200,000 บาท ในขณะที่โรงพยาบาลที่ไม่สามารถดำเนินการได้จะไม่ได้รับรางวัล รมว.สาธารณสุขยังกล่าวถึงแผนการผลักดันสมุนไพรไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยในปีถัดไป กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มต้นจากการนำยาดมและยาหม่องไปเปิดตลาดในตะวันออกกลางช่วงพิธีฮัจย์ และมุ่งหวังให้มีการขยายการส่งออกสมุนไพรไทยมากขึ้นในอนาคต
แหล่งข้อมูล :
thaipost.ne
URL :
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ >>> Click
<<<